3 สารอาหารช่วยบำรุงลำไส้

คงต้องยอมรับว่า โรคส่วนใหญ่มักมาจากอาหารที่เรารับประทาน และแน่นอน หนึ่งในอวัยวะที่แสดงอาการผิดปกติง่ายที่สุด เร็วที่สุด นั้นก็คือลำไส้เรานี่เลยค่ะ กว่าจะรู้ตัวว่าลำไส้มีปัญหา ก็ต้องทนทรมานกันไป ซึ่งลำไส้ของเราเปรียบเสมือนท่ออาหารขนาดยาว มีหน้าที่ช่วยลำเลียงอาหารจากกระเพาะอาหารมาย่อยโดยในระหว่างนั้น จะมีการดูดซึมสารอาหารสำคัญผ่านผนังลำไส้ ก่อนส่งต่อไปลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีหน้าที่ดูดน้ำและสารอาหารบางส่วนกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง ก่อนที่จะขับกากอาหารเป็นของเสียออกจากร่างกาย

ทุกวันนี้ที่ออกจากบ้านสาย หรือไปทำธุระไม่ทัน เพราะใช้เวลาในห้องน้ำนานไปรึเปล่า ? หรือจริงๆ แล้วคุณกำลังมีปัญหาท้องผูกอยู่ด้วย !? ท้องผูกเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อาการท้องผูก ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่ายไม่ออก ขับถ่ายลำบาก ปวดท้อง ใช้เวลาในการขับถ่ายนาน หรือรู้สึกเจ็บเนื่องจากลักษณะของอุจจาระที่แข็งหรือหนา การที่เราร่างกายของเราไม่สามารถขับถ่ายได้อย่างปกติ ก็จะส่งผลทำให้มีสิ่งตรงค้างอยู่ในลำไส้ เมื่อร่างกายถ่ายของเสียออกมาได้ไม่หมด ก็จะดูดน้ำในอุจจาระกลับมาใช้อีกครั้ง ร่างกายจะรู้สึกไม่สดชื่น ส่งผลเสียต่ออารมณ์ทำให้หงุดหงิดง่าย อึดอัดตัว รวมถึงผิวพรรณไม่สดใส ซึ่งนอกจากอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือการละเลยการดูแลสุขภาพอีกด้วย หากเป็นอย่างนั้นคงต้องเริ่มแก้ปัญหาท้องผูกง่ายๆ เริ่มได้จากรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ เพื่อช่วยให้ขับถ่ายคล่องแบบไม่ต้องพึ่งยาระบายกันดีกว่า 

3 สารอาหารช่วยบำรุงลำไส้

ก่อนจะไปดูอาหารแก้ท้องผูกที่ไม่ว่าคนธาตุหนักหรือธาตุเบาควรกินเป็นประจำนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการที่ลำไส้และระบบขับถ่ายจะทำงานดีได้ต้องอาศัยหลายอย่างรวมกัน ทั้งพฤติกรรมการนอน การใช้ชีวิตประจำวันในแต่ละวัน และหนึ่งในนั้นคือพฤติกรรมการกินอาหาร ซึ่งหลายคนอาจเหมารวมแค่ว่าอาหารที่กินจะต้องมีกากใย ให้ไฟเบอร์ที่เพียงพอ จึงต้องมาจากผักสีเขียวหรือผลไม้เท่านั้น แต่นั่นไมใช่ความเข้าใจที่ถูกต้องนักเพราะจริงๆ แล้วอาหารที่ช่วยแก้ท้องผูกได้นั้นไม่เฉพาะเจาะจงว่าต้องมาจากผัก/ผลไม้ แต่ยังรวมถึงสารอาหาร จุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียบางชนิดที่ช่วยปรับสมดุลของลำไส้ ช่วยฟื้นฟูระบบขับถ่ายได้อย่างดีด้วย ซึ่งมักจะอยู่ในอาหารที่หลากหลายชนิด แต่จะเป็นอะไรนั้น ตามมาเช็ค 3 สารอาหารแก้ท้องผูกที่ใครๆ ก็กินได้ ขับถ่ายดีแบบไม่ต้องพึ่งยาระบายกันเลย

1.โพรไบโอติกส์ (Probiotics)

โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต สามารถพบได้ในอาหารหลากหลายประเภท เช่น นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ ฯลฯ จุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับการคัดเลือกแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกายแล้วจะไปตั้งรกรากอาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่แต่เดิมในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียที่ดีมีจำนวนมากขึ้น และแบคทีเรียที่ไม่ดีจำนวนลดลง ทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น จากข้อมูลที่มีเพิ่มขึ้นมากมายในปัจจุบัน สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าโปรไบโอติกซึ่งเป็นจุลชีพมีชีวิตจากธรรมชาติจัดเป็นสารอาหารคุณภาพที่ช่วยป้องกันและรักษาสุขภาพของผู้รับประทานจากโรคต่างๆ ได้มาก โดยเฉพาะในเด็กหรือผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ช่วยแก้ไขปัญหาภาวะท้องเสียโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ต่างๆ และป้องกันการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ และในอนาคตอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพในด้านอื่นๆ

2.ไฟเบอร์ (Fiber) 

ไฟเบอร์ (Fiber) หรือเส้นใยอาหาร ส่วนใหญ่เราจะได้จากส่วนโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด เป็นส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ซึ่งมีโครงสร้างประกอบไปด้วยโมเลกุลน้ำตาลมาต่อกันอย่างซับซ้อน Fiber จะไม่โดนย่อยด้วยกรดในกระเพาะอาหารและเอนไซม์ในลำไส้เล็ก มันจึงเป็นกากที่จะไปเบียดบังพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร เวลารับประทานเข้าไปจึงรู้สึกอิ่ม อีกทั้งมันเป็นสารที่ไม่ให้พลังงาน เมื่อรับประทานเข้าไปจึงไม่ก่อให้เกิดพลังงานส่วนเกิน แต่ในทางตรงข้ามมันกลับไปช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลอีกด้วย นอกจากนี้มันยังช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ลดอัตราเสี่ยงจากไขมันอุดตันหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเนื่องจากมันช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้นนั่นเอง มันจึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ริดสีดวงทวารด้วย

3.สารโพลีฟีนอล (Polyphynol) 

โพลีฟีนอล คือ กลุ่มของสารพฤกษเคมีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในบรรดากลุ่มของสารพฤกษเคมีที่พบในพืชผักผลไม้ทั้งหมด เช่น ในไวน์แดง องุ่น ช็อกโกแลต โกโก้ ชาเขียว น้ำมันมะกอก และธัญพืช สารในกลุ่ม โพลิฟีนอล ทุกตัวนั้นจะมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ(Anti-oxidant) และมีส่วนช่วยควบคุมการทำงานต่างๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ เช่น สุขภาพสมอง, รักษาสมดุลในร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อมของระบบประสาท หลอดเลือดสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด มีส่วนช่วยปรับแบคทีเรียในลำไส้ และปรับการทำงานของลำไส้ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

อ่านบทความดีๆเพิ่มเติมได้ที่
Website :https://www.wellnessmarkshop.com/blog
Line@ : @wmshop
Tel : 02-123-1310